24 สิงหาคม 2563
8
"องอาจ" ยืนยันการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดูแลปากท้องของประชาชนจำเป็นมากกว่าการซื้อ "เรือดำน้ำ" ขอทุกฝ่ายทบทวนอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 63 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ จะยอมถอยเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ทบทวนการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า เป็นเรื่องดีที่ประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ จะยอมถอยเรื่องนี้เพื่อพิจารณามติการจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่ แต่แทนที่จะส่งเรื่องไปให้คณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณชุดใหญ่พิจารณา ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ควรเรียกประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาลงมติเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่ ตนเชื่อมั่นว่า หลังจากคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ฟังข้อมูลรอบด้านมากขึ้นทั้งจากในสภาและนอกสภาก็อาจมีมติที่แตกต่างไปจากเดิมได้ เพราะที่ผ่านมาอาจจะฟังจากหน่วยงานที่ขอรับงบประมาณคือกองทัพเรือด้านเดียว ถึงความจำเป็นที่ต้องอนุมัติงบประมาณซื้อเรือดำน้ำปีนี้ แต่เมื่อได้ฟังข้อมูลเหตุผลจากหลากหลายด้านที่มาจากนอกสภามากขึ้น คณะอนุกรรมาธิการฯ ก็อาจลงมติที่ต่างไปจากเดิมได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร กลับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากกว่าที่คณะอนุกรรมาธิการฯ เปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ใช่ฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่ต้องการใช้เงินงบประมาณแต่เพียงอย่างเดียว
การส่งเรื่องไปให้คณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ทบทวนว่า จะซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ เท่ากับโยนภาระไปให้โดยไม่จำเป็น ควรทำให้จบในชั้นคณะอนุฯถึงแม้คณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่จะมีสิทธิทบทวนมติของคณะอนุฯได้ก็ตาม
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กังวลว่าการลงมติเห็นชอบให้ซื้อเรือดำน้ำจะถูกโยงไปเติมเชื้อสถานการณ์การเมืองให้แรงขึ้น ควรเลื่อนการจัดซื้อออกไปก่อนนั้น ตนเห็นว่า การจะซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ ไม่ควรไปผูกโยงกับสถานการณ์การเมืองที่มีการชุมนุมกันอยู่ในขณะนี้ ถึงแม้ไม่มีการซื้อเรือดำน้ำการชุมนุมก็คงดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายแต่ควรดูว่า การซื้อเรือดำน้ำขณะนี้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์และมีความจำเป็นหรือไม่ ตนมองว่า การซื้อเรือดำน้ำขณะนี้ไม่เหมาะสมและไม่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะประเทศไทยกำลังมีวิกฤติเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นผลกระทบจากโควิด-19 จึงควรใช้จ่ายงบประมาณเพื่อแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 เป็นหลัก รวมทั้งขณะนี้ประชาชนแทบทุกภาคส่วนล้วนกำลังเดือดร้อน มีชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก มีคนว่างงานเพิ่มขึ้น ธุรกิจ SME จำนวนมาก กำลังอยู่ในภาวะดิ้นรนช่วยตัวเองอย่างมาก มีแนวโน้มจะไปไม่รอดสูง รอวันเจ๊ง จึงควรใช้เงินทุกบากทุกสตางค์เพื่อช่วยเหลือดูแลเยียวยาประชาชนให้เดินหน้าต่อไปได้จะเหมาะสมกว่า
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ขณะที่บ้านเมืองมีวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ ภาครัฐควรนำเงินไปใช้ให้เกิดการจ้างงานเพิ่มการผลิตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ก่อผลิตภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุด มากกว่าไปใช้ซื้อเรือดำน้ำที่ไม่ก่อให้เกิดผลิตภาพทางเศรษฐกิจและไม่จำเป็นแต่อย่างใด ขอยืนยันว่า การนำเงินไปใช้เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจดูแลปากท้องของประชาชนจำเป็นมากกว่าการซื้อเรือดำน้ำที่กำลังผลักดันกันอยู่ขณะนี้ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทบทวนการซื้อเรือดำน้ำอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง
August 24, 2020 at 10:21AM
https://ift.tt/3hqbBVt
'องอาจ' ย้ำ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดูแลปากท้องประชาชนจำเป็นกว่า 'เรือดำน้ำ' - กรุงเทพธุรกิจ
https://ift.tt/2BaQsOR
Home To Blog
No comments:
Post a Comment