Pages

Thursday, June 4, 2020

คอลัมน์การเมือง - บุคคลแนวหน้า : 5 มิถุนายน 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

suriyus.blogspot.com

“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” สื่อ “อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” พาท่านผู้บริโภคข่าวสารจาก “นสพ.แนวหน้า”ที่ยืนหยัดอยู่บนข้อเท็จจริง และข้อมูลที่กลั่นกรองถูกต้องทุกบรรทัดทุกตัวอักษร...

nn ออกมาวิ่งนอกลู่พิเคราะห์ความเห็นของ “ศุภชัย พานิชภักดิ์” อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก หรือ WTO กับวาทกรรมใหม่ “NewNormal” พร้อมติดตามสถานการณ์ “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” ในปัจจุบันโดยเริ่มต้นจาก “กูรูด้านเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งของเมืองไทย - ศุภชัย พานิชภักดิ์”ที่ออกมาบอกว่า “ไม่มีความเชื่อในเรื่องของวิถีชีวิตปกติใหม่” เชื่อเถอะว่า มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคม เมื่อสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” แล้ว สังคมจะกลับมาพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด จับมือกันกอดกัน โดยเฉพาะสังคมประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกา ทุกครั้งที่มีการเกิดวิกฤติก็จะมีข้อเสนอให้มีการปรับตัวอยู่เสมอ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นหรือประสบความสำเร็จ...


nn “ศุภชัย” แนะนำให้สังคมไทยหาเวลาว่างอ่านและศึกษาหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนโดย “ดร.แดเนียล คาฮ์นะมัน” คนสัญชาติสหรัฐ, อิสราเอล เจ้าของ “รางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2002” เรื่อง “ความคิดเร็วและช้า” (Thinking, fast and slow) นักจิตวิทยาแลสังคมวิทยา ที่มาสอนนักเศรษฐศาสตร์ว่า สิ่งที่เป็นทฤษฎีของนักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า มนุษย์ เป็นสัตว์ที่มีเหตุมีผลนั้นมันไม่จริง มนุษย์มักเข้าข้างตัวเองเพื่อนฝูงและเข้าข้างกลุ่มคนรอบข้าง เมื่อจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คนนั้นคนนี้บอกว่าดี แทนที่จะหาข้อมูลกลับทำสิ่งนั้นตามที่มีการบอกเล่า น้อยครั้งที่มนุษย์เราจะหยุดคิดพิจารณาก่อน ดังนั้น“New Normal” ที่บอกว่า ต่อจากนี้คนเราต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะต้องกินร้อน ช้อนกลางของใครของมัน ต้องล้างมือบ่อยๆ ต้องทำ Social Distancing มันไม่ใช่ “New Normal”เพราะเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเพื่อความสะอาดอยู่แล้ว โลกต้องเปลี่ยนมากกว่านี้เยอะ แต่เป็นเรื่องยาก ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะอุปนิสัยและพฤติกรรมในการทำมาหากินของมนุษย์ทุกวันนี้ มนุษย์ทำลายธรรมชาติจึงตัดป่าถางพงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สัตว์ป่าจึงทิ้งฐานมาอาศัยอยู่ในฟาร์มในบ้านในนามาอยู่กินรวมกับสัตว์ที่เราเลี้ยงทั้งไก่ โค สุกร ม้าที่ร้ายที่สุดคือ ค้างคาว เป็นสัตว์ที่มีไวรัสอยู่ทุกประเภทก็มาติดกับพวกเราไม่ว่าจะกินหรือไม่กินค้างคาวโรคนี้ก็มีอยู่แล้ว และยังมีอยู่อีก สังคมต้องหันมาเรียนรู้ใหม่ เลิกทำลายธรรมชาติ มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคม เมื่อสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” ได้ เชื่อว่าจะไม่กลับมาพูดคุยกันใกล้ชิดกัน จับไม้จับมือ กอดกัน เหมือนก่อนเกิดวิกฤติ โดยเฉพาะชาติในแถบยุโรปและอเมริกา...

nn สังคมไทยจะ “สะลึมสะลือ สะโหลสะเหล”นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ “โควิด-ไนน์ทีน” ไม่ได้ แม้วันนี้อัตราการติดเชื้อในประเทศไทยสามารถควบคุมได้ คงมีแต่ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้นที่ “ศบค.” ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ที่ต้องกล่าวเยี่ยงนี้ เพราะผลการสำรวจเปอร์เซ็นต์การป้องกันและเฝ้าระวังตนเองของคนไทยลดลง โดยเฉพาะ “ฮีโร่ไทยแลนด์” อย่าง “อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.” ที่ลดลงถึง 6.6% แต่ยังมีการใส่หน้ากากอนามัยกันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งรัฐบาลทหารแก่ผ่อนปรนมาตรการควบคุมลงเพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศเกิดการเคลื่อนไหว คนไทยสังคมไทยยิ่งเสี่ยงจากการแพร่ระบาด “โรคติดเชื้อโควิด-ไนน์ทีน” เพิ่มขึ้น ตัวอย่างกรณีที่ “ไม้หน้าสาม” ประสบเหตุที่ “สถานีขนส่งสายใต้” กับรถโดยสารประจำทางที่เป็นรถมินิบัส หรืออย่างกรณีนักท่องเที่ยวชายหาดบางแสนที่แห่แหนกันหนีร้อนไปลงทะเลจนล้นหลามเกิดการควบคุม ยิ่งทำให้เกิดอาการหวาดหวั่นพรั่นพรึง ที่ “รัฐบาลทหารแก่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ต้องหามาตรการป้องกัน แน่นอน !! เมื่อมีการท่องเที่ยวย่อมทำให้เงินสะพัดเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน แต่ถ้าเปิดการท่องเที่ยวแล้วทำให้ “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” กลับมาแพร่ระบาดระลอกใหม่ ได้คงไม่เท่าเสียแน่ อย่าให้ต้อง“เจ็บแล้วจบ” จนต้องกู้เงินล้านล้านบาทซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลย...

nn จบเรื่องวิชาการ “ไม้หน้าสาม” ชวนมาเข้าครัว “ทานพืชสวนครัวสู้โควิด-ไนน์ทีน” เรื่องนี้ “พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย” แนะนำเมนูชูสุขภาพเน้นเสริมภูมิต้านทานที่มี “ใบกะเพราและพริกขี้หนู” เป็นส่วนประกอบ อาทิ ผัดกะเพราปลา, ไข่เจียวกะเพรา, ต้มยำปลาทู, สปาเกตตีขี้เมาทะเล เป็นต้น โดยกะเพรามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดปวด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงเกิดมะเร็ง ส่วนพริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง กระตุ้นความอยากอาหาร ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยการเผาผลาญพลังงาน และบำรุงสายตา กะเพราสามารถช่วยป้องกัน “การติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” ได้จริง สารโอเรียนทินจีนอล แก้ไอ ขับเสมหะ สำคัญฆ่าเชื้อไวรัสได้ด้วย ปริมาณป้องกันโควิด 50 กรัม “ไม้หน้าสาม” ได้สนทนาหาความรู้กับ “ปราชญ์ชาวบ้าน-หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ราชาสมุนไพร ต.สระลงเรืออ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ก็ยืนยันถึงหลักการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยว่า ถ้ามนุษย์มีธาตุไฟธาตุที่ดีร่างกายก็แข็งแรงเชื้อโรคต่างๆ จะไม่สามารถทำให้เราเจ็บป่วยได้ พืชผักสวนครัวเช่น กะเพราจัดเป็นสมุนไพรร้อนมีสรรพคุณป้องกันเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตาม หมอเณรเห็นว่า ในวิกฤติเช่นนี้รัฐบาลควรมุ่งเน้นพัฒนาสมุนไพรไทยแพทย์แผนไทยอย่างจริงจังซึ่งคงต้องยกเครื่องกรมการแพทย์แผนไทยใหม่ทั้งระบบเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ว่า การส่งเสริมแพทย์แผนไทยดำเนินการไม่ถูกจุด ใช้จ่ายงบประมาณไปแบบไร้เป้าหมายทำให้สมุนไพรไทยถูกทำลาย และตำรับยาสมุนไพรไทยดีๆมากมายไม่ได้รับการส่งเสริม การพลิกวิกฤติเป็นโอกาสนี้จึงเป็นทางรอดของประเทศไทยอย่างแท้จริง หมอเณรระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ใช้สมุนไพรรักษาโรคต่างๆ หายขาด เช่นโรคเบาหวานแผลเน่า ความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อนี้เป็นจำนวนมาก เราต้องตัดเท้าตัดขาคนไข้ แต่สมุนไพรสามารถรักษาจนแผลเน่าหายสนิท วันนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องสนับสนุนแพทย์แผนไทยอย่างจริงจัง ก่อนที่ตำรับยา หรือสมุนไพรอันทรงคุณค่าของไทยจะสูญหายไปจากแผ่นดินนี้ ซึ่งขณะนี้มีดัชนีชี้วัดน่าตกใจ ร้านจำหน่ายยาสมุนไพรไทยไม่สามารถหาสมุนไพรหลายชนิดมาจำหน่ายได้ เนื่องจากไม่มีใครเพาะปลูก เช่น ฤาษีผสมเสร็จ น่าจะใกล้สูญพันธุ์แล้ว ขณะเดียวกันยังมีสมุนไพรที่มีราคาแพงปลูกง่ายอีกหลายชนิด แต่ประชาชนไม่นิยมปลูก เช่น ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภีดอกคำไทย ต้นคนทีสอ แฝกหอมไทย เปราะหอม มะตูม เป็นต้นเหตุผลที่ชาวบ้านไม่ปลูกสมุนไพร อีกปัจจัยหนึ่งก็คือพ่อค้าคนกลางร้านยากดราคา เช่น รับซื้อกก.ละ 20 บาท แต่ไปขายกก.ละ 120 บาท สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขกรมแพทย์แผนไทยไม่เคยใส่ใจหรือรับรู้ถึงปัญหา ก็คงทำได้แค่ยาลม ยาดม ยาหม่อง ขมิ้นชัน ยาเดี่ยวซื้อถูกทำถูกขายแพงกันต่อไป...

nn ปิดท้ายที่ “ความเน่าเหม็นของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ดร.วิศร์ อัครสันตติกุลประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ครูขอนแก่น” ยังคงเดินหน้าขุดลากถอนโคนแก๊งทุจริตยักยอกเงินสหกรณ์ฯ อย่างต่อเนื่อง...

nn ล่าสุด !! ร่อนหนังสือถึงประธานสหกรณ์ครูขอนแก่น ให้พิจารณาเลิกจ้าง “นายทนงศักดิ์ วังสงค์ผู้จัดการสหกรณ์ครูขอนแก่น” เนื่องจากถูกสมาชิกสหกรณ์ฯฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาฐานร่วมกันยักยอกฉ้อโกง ปกปิดบัญชีงบดุล จนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง หมากเกมนี้จะลงเอยเช่นไร เพราะกรรมการฯ หน้าเก่าคนเดิมยังวนเวียนเสพสุขอยู่ในอำนาจ “ท่านผู้ทรงเกียรติในรัฐสภา” จะสามารถทำผิดเป็นถูก ทำขาวเป็นดำได้ ก็ลองดู ใครจะอุ้มใครจะปกปิดอะไรกันอย่างไรก็พึงใช้สติปัญญาคิดให้รอบด้าน เพราะศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมไทย มั่นใจว่า “คุกตะรางไม่ได้มีไว้ขังสุนัข”...nn

ไม้หน้าสาม

Let's block ads! (Why?)


June 05, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/30fPb3s

คอลัมน์การเมือง - บุคคลแนวหน้า : 5 มิถุนายน 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/2BaQsOR
Home To Blog

No comments:

Post a Comment