ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย ตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 มีสมาชิกเริ่มต้น 9 คน ซึ่งตอนนั้นมีปัญหาเรื่องโรคแมลง เลยก่อตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ต่อมาประมาณปี 2552-2553 เจอปัญหาข้าววัชพืช ข้าวดีด ข้าวเด้ง เลยก่อตั้งเป็นศูนย์ข้าวชุมชนอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 80 คน มีพื้นที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวประมาณ 3,000 ไร่ ปลูกข้าวปทุมธานี 1, กข41 และกข49 ส่งให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุโขทัย และจำหน่ายให้กับเอกชนบางส่วนด้วย ซึ่งศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วยถือเป็นกลุ่มที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้มาตรฐานมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่
นายบรรเจิด นาคย่านยาว ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย เล่าว่า พอทำเมล็ดพันธุ์ได้มาตรฐานเข้าที่แล้ว ตอนหลังก็มาในเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์พระราชา ให้เราลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต อย่างแรก คือ ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในเรื่องการผลิตสินค้า ผลิตข้าวที่ได้มาตรฐาน ทั้งข้าวเมล็ดพันธุ์ทั้งข้าวกิน และในส่วนเรื่องของการลดต้นทุน ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตเอง อินทรีย์น้ำ ใช้ชีวภัณฑ์ทดแทนเคมี ก็ลดต้นทุนไปเยอะ ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น สมาชิกของกลุ่มก็มีรายได้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเยอะเลยละ อยากให้ทุกคนนำศาสตร์พระราชามาใช้ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ก็ไปดูในรายละเอียดเอานะ เสร็จแล้วอยากให้นำมาใช้ นำมาประยุกต์ใช้ เพราะว่าที่ทำกันมาโดยประสบการณ์จริงๆ ทำให้เราอยู่อย่างภาคภูมิใจในความเป็นเกษตรกร เราสู้กับอาชีพอื่นได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี
แปลงเมล็ดพันธุ์ที่ดำเนินการอยู่ ทำให้เกษตรกรมีรายได้มาก มีต้นทุนการผลิตต่ำ เนื่องจากผลผลิตของเมล็ดพันธุ์ข้าวสูง โดยใช้ศาสตร์พระราชามาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน ยิ่งทำให้เกษตรกรมีความสุขมาก เฉลี่ยแล้วต่อปีจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำเมล็ดพันธุ์มีมูลค่าที่เป็นรายได้เกษตรกรกว่า 15 ล้านบาท ในเกษตรกร 60 ครัวเรือน เฉลี่ยแล้วครัวเรือนหนึ่งมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 250,000 บาท ต่อรอบ ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งที่กรมการข้าวได้มาพัฒนาข้าวและชาวนาอุตรดิตถ์
นายธนิตย์ มหายศนันท์ นักวิชาการเกษตรส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ เล่าเพิ่มเติมว่า การส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วยผลิตเมล็ดพันธุ์ดีให้มีคุณภาพดี เพื่อจำหน่ายให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ ซึ่งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ได้มาติดตามเรื่องของการผลิตเมล็ดพันธุ์ในกลุ่มบ้านคลองกล้วย ได้มาติดตามอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เตรียมเมล็ดพันธุ์จนถึงการเก็บเกี่ยว ติดตามเรื่องถอนพันธุ์ปน การเก็บเกี่ยว การจัดซื้อคืน
ด้านนายขจร โนวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ อธิบายว่า ที่สำคัญที่สุดต้องมีภูมิคุ้มกัน ที่นี่ไม่ได้ทำพืชชนิดเดียว มีพืชหลายอย่าง มีไม้ผล มีผักสวนครัว มีข้าวทั้งเมล็ดพันธุ์ ทั้งข้าวเปลือก ใช้หลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ความรู้คู่คูณธรรมเพื่อพัฒนาตัวเองให้เกิดความสำเร็จ ที่นี่มีความมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องเป็นศูนย์ขยายผล ซึ่งปกติก็เป็นศูนย์ขยายผลอยู่แล้ว แต่กรมการข้าวหวังอยากจะให้ศูนย์ข้าวชุมชนหรือแปลงใหญ่หลาย ๆ แปลงมีสภาพเหมือนกับกลุ่มนี้ เพื่อที่หวังเป็นศูนย์ขยายผลนั่นเอง
"ที่จริงศาสตร์พระราชามีสี่พันกว่าเรื่อง แต่เรารู้แต่ 23 เรื่อง แต่ที่เป็นโมเดลที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้แสดงไว้ให้เข้าใจง่ายเขาเรียกว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันนี้ซับซ้อนลึกซึ้งมาก บ้านคลองกล้วยหรือศูนย์ข้าวชุมชนหรือแปลงใหญ่เกือบทุกแปลงใช้หลักศาสตร์พระราชาเกือบทั้งสิ้นคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รู้จริงในสิ่งที่ทำ อันนี้ทุกคนต้องรู้ต้องมีประสบการณ์จากการลองผิดลองถูก แต่เมื่อมาใช้หลักศาสตร์พระราชา มีการบันทึก มีการเรียนรู้ พอมีตวามรู้แล้วก็ลงมือทำกันจริง พอลงมือทำจริงมีการวางแผน"
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นความสำเร็จของกรมการข้าว โดยการดำเนินงานของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ เพื่อพัฒนากลุ่มนาแปลงใหญ่ โดยใช้ศาสตร์พระราชามาขับเคลื่อน จนส่งผลให้เกษตรกรในกลุ่มแปลงใหญ่ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
July 31, 2020 at 11:12AM
https://ift.tt/2D3TaHm
แปลงใหญ่ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย ผลิตเมล็ดพันธุ์มมาตรฐาน ลดต้นทุนเพิ่มรายได้ ตามแนวทางศาสตร์พระราชา - สยามรัฐ
https://ift.tt/2BaQsOR
Home To Blog
No comments:
Post a Comment