Pages

Monday, June 8, 2020

คอลัมน์การเมือง - บุคคลแนวหน้า : 9 มิถุนายน 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

suriyus.blogspot.com

“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” สื่อ อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” จักขอเริ่มต้นสัปดาห์นี้ กับคำว่า “New Normal” ศัพท์ใหม่ที่ชาวโลกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางอีกครั้ง ผู้มีอำนาจใประเทศไทย “ฟังไม่ได้ศัพท์ก็จับไปกระเดียด” ออกอาการปีนบันได “New Normal” ทั้งที่บางคนคิด แค่กินร้อน ช้อนกู ล้างมือ กระนั้นหรือ ขนาด กูรูเศรษฐศาสตร์ “ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีต ผอ.องค์การการค้าโลก หรือ WTO” ยังมองเป็นว่าแค่ “วาทกรรมกระเดียด” ที่ประดิษฐ์ออกมาแต่ไม่ก่อให้เกิดการปฏิบัติกับ “สัตว์สังคม” อย่างจริงจัง “New Normal” อาจจะใหม่เกินไปสำหรับคนไทย แต่คำว่า “เกษตรทฤษฎีใหม่ - เศรษฐกิจพอเพียง” นั้น “สหประชาชาติ-ยูเอ็น” ยังให้การรับรองว่าเป็นทฤษฎีใหม่ที่จะนำพาชาวโลกสู่ความสุขได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รัฐบาลไทยทุกยุคสมัยพูดถึง“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนนำมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมขณะที่“นักการเมืองไดโนเสาร์”ยังรังสรรค์ทฤษฎีเล่นเกม “สมบัติผลัดกันรุมทึ้ง” ชิงเก้าอี้ก่อการทุจริตงบฯแผ่นดินเข้าพกเข้าห่อกันอย่างไม่เลิกรา “นักการเมืองสันดานอีกา” บางตัวก็ไม่รู้จัก “กาลเทศะ” มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์ช่วงชิงอำนาจจนทอดทิ้งประชาชนไว้เบื้องหลัง แต่พร่ำสำรอก “เราจะไม่ทิ้งกัน”เป็นนิจศีล อย่าง “พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)” ณ เพลานี้กำลังถูกมองว่าเป็น “พลังประชาเละ” เพราะมีการเปิดเกมชิงอำนาจในพรรคอย่างไม่อาย “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” เจ้าของวลีเด็ด “นาฬิกาหรูยืมเพื่อนมา” กำลังถูก “ยกหางวางตัว” ให้เป็นหัวหน้าพรรคพปชร.เกมการเมืองแบบไดโนเสาร์เต่าล้านปีเยี่ยงนี้คงหนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์ “เกิดโรคติดเชื้อถอนทุน” จากกลุ่มการเมืองไม่สร้างสรรค์ แล้วบ้านเมืองนี้จะเจริญก้าวหน้าพัฒนาไปได้อย่างไร???...

nn วิกฤติ “โรคติดเชื้อโควิด-19”สอนให้สังคมโลกต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด ทั้งการพัฒนาการการสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ๆ เลิกเพ่งเล็งตัวเลขเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP โดยไม่ได้คำนึงถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...


nn “ไม้หน้าสาม” มองตลาดสมุนไพรไทยที่มีตลาดชัดเจนมีตัวเลขส่งออกปีละแสนล้านที่ ล่าสุดอินโดนีเซียนำเข้าดอกอัญชันแห้ง ในราคากิโลกรัมละ 4,000 บาท เพื่อไปรักษาโรคเบาหวาน “กรมวิชาการเกษตรโดยดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” เคยให้ข้อมูลไว้ว่า การเติบโตของตลาดพืชสมุนไพรไทยทั้งในและตลาดโลก ปัจจุบันมีมูลค่าการส่งออกปีละนับแสนล้านบาท โดยสมุนไพรไทยในกลุ่มเสริมอาหารมีมูลค่าการใช้และส่งออกรวมกว่า 80,000 ล้านบาท กรมฯจึงได้เร่งผลักดันให้เกษตรกรปลูกสมุนไพรภายใต้ระบบ GAP เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านการแพทย์การส่งเสริมและป้องกันโรค รวมถึงการส่งเสริมความเชื่อมโยงของแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 โดยวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายได้ ต้องขับเคลื่อนผ่าน 4 ยุทธศาสตร์ คือ ส่งเสริมการปลูกสมุนไพร พัฒนาอุตสาหกรรมให้แข่งขันทั้งตลาดในและต่างประเทศได้ ส่งเสริมให้ใช้สมุนไพรในการรักษาโรค และมีนโยบายและการบริหารของภาครัฐ โดยมีคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงแผนแม่บทแห่งชาติ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่ง “ไม้หน้าสาม”มีคำถามว่า หลังจากที่มีการประกาศใช้แผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยฉบับที่ 1 พุทธศักราช 2560-2564 โดยเป้าหมายของแผนแม่บทนี้ ต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศอย่างน้อย 1 เท่าตัวนั้นจวบจนวันนี้ มีการขับเคลื่อนไปถึงไหนได้ดำเนินการอะไรที่เป็นรูปธรรมบ้าง...

nn “ไม้หน้าสาม” จำได้ว่าสภาผู้ทรงเกียรติชุดที่แล้วก่อนปฏิวัติรัฐประหารอันเนื่องมาจากการออก “พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับสุดซอย”และการดำเนินนโยบายจำนำข้าวทุกเม็ดผิดพลาดของพรรคเพื่อไทยจนมีเกษตรกร 11 รายฆ่าตัวตาย และเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจประเทศกว่า 7-8 แสนล้านบาท” นั้นได้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคเบาหวานและอื่นๆ จนมีผลสรุปเป็นที่เรียบร้อยนำเสนอต่อสภาผู้แทนฯแล้ว ถ้า“หมอหนู – อนุทิน ชาญวีรกูล”จักสำเหนียกจักปรายตามองหรือเกิดจิตสำนึกในการเรียนรู้หยิบมาอ่านมาทำความเข้าใจและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขและประเทศชาติบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องน่าละอายแต่อย่างใด ตรงข้าม!!! น่าจะเป็นไอดอลให้นักการเมืองที่กระสันจะมาเป็น “อำมาตย์เสนาบดีรัฐมนตรี” ได้ตระหนักถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องอีกต่างหาก และจะนับเป็นบุญวาสนาของเกษตรกรไทย-ประชาชนชาวไทย และหรือประชากรทั่วโลกจักได้รับอานิสงส์นี้...

nn สัปดาห์ที่ผ่านมาสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบพระราชกำหนด 3 ฉบับที่เสนอโดยรัฐบาลเพื่อขออำนาจกู้เงินวงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาทมาเยียวยาแก้ไขปัญหาจาก “วิกฤติโรคติดเชื้อโควิด-19”ระหว่างการอภิปรายเสนอแนะรัฐบาล“ไม้หน้าสาม”บังเอิญได้ยิน สส.อภิปรายเรื่องสมุนไพรภูมิปัญญาบรรพบุรุษในรัฐสภา ถ้าสติไม่ฟั่นเฟือนจนเกินเหตุจำได้ว่าน่าจะเป็นท่านผู้ทรงเกียรติ “นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนชาวไทย” อภิปรายชำแหละเงินกู้ดังกล่าวไว้น่าสนใจ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งเสริมสมุนไพรไทย แพทย์แผนไทยอย่างจริงจัง อีกทั้งยังเห็นว่า การสนับสนุนแพทย์แผนไทยควรปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ไม่ใช่นำแพทย์แผนปัจจุบันมาเป็นผู้กำหนดทิศทางต่างๆ เพราะร่ำเรียนมาคนละตำรากัน ซึ่งประเด็นนี้ “ไม้หน้าสาม” พอได้ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านมาบ้าง รวมทั้งได้รักษาโรคความดันโลหิตด้วยสมุนไพรมากับตนเอง ทำให้มีความเชื่อมั่นในภูมิปัญญาบรรพชนบรรพบุรุษไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก อยากเห็นการแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนไทย ได้รับโอกาสได้รับการส่งเสริมการวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาเม็ดเงินที่ได้รับเพื่อการวิจัยถูกนำไปพัฒนายาสมุนไพรอย่างไร้ทิศทาง ทำให้ตำรับยาดีๆ สูญหาย โดยเฉพาะการไม่สนับสนุนส่งเสริมหมอพื้นบ้านที่มีผลงานจับต้องได้ สามารถรักษาผู้เจ็บไข้หายจากโรคร้ายนานาชนิดด้วยสมุนไพรไทย ในสถานการณ์โควิด-19 จีนนำตำรับยาแผนจีนทดลองใช้กับผู้ป่วยซึ่งได้ผลดีมาก โดยการแพทย์แผนจีนใช้หลักคิดเรื่องความสมดุลของ “ความร้อน ความเย็น ความชื้น” ในร่างกายมาเป็นตัวตั้ง วิธีการรักษาด้วยสมุนไพรจึงช่วยให้อวัยวะต่างๆ กลับคืนมาสู่สภาพปกติไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป โดยเฉพาะพยายามให้พืชที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หลักการแพทย์แผนจีนสอดรับกับหลักการแพทย์แผนไทย ว่าด้วยเรื่อง “การตั้งไฟธาตุ” ปรับสมดุลร่างกายโรคภัยไข้เจ็บก็ทำอะไรเราไม่ได้ “หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ผู้มีตำรับยาสมุนไพรไทยจากคัมภีร์โบราณ สามารถรักษาผู้ป่วยแผลเน่าเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ หมอพื้นบ้านซึ่งมีตำรับยาจากคัมภีร์โบราณที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เช่นนี้ ไฉนกระทรวงสาธารณสุข จึงไม่คิดค้นต่อยอดให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน ให้การสนับสนุนและวิจัยเรื่องเหล่านี้ แต่ที่ผ่านมากลับไปสนับสนุนพวก “หมอจำอวด” อวดอ้างคุยโตรักษามะเร็งได้ จัดงานแถลงเป็นข่าวใหญ่โต สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว ที่สุดหมอจำอวดรายนั้นก็เบนหัวเรือหันไปทำเสริมอาหารขายดิบขายดีสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตัวเองและคนใกล้ชิด นี่แหละผลงานของกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกกลับคิดไม่ออก ให้ตำรับยาชั้นเลิศ สมุนไพรไทยสำคัญๆ หลายตัวกำลังสูญหายไปกับกาลเวลา คิดได้หันมาเริ่มต้นใหม่ก็คงไม่เสียหายกระมัง...nn

ไม้หน้าสาม

Let's block ads! (Why?)


June 09, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2UoQk5d

คอลัมน์การเมือง - บุคคลแนวหน้า : 9 มิถุนายน 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/2BaQsOR
Home To Blog

No comments:

Post a Comment