Pages

Sunday, June 7, 2020

ทั่วถึงอย่างเท่าเทียม : จับไต๋ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านแก้วิกฤติไวรัส - ไทยรัฐ

suriyus.blogspot.com

ส่วนตัวอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ เลือกตั้งเสร็จต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ รัฐบาลบริหารประเทศตามอำนาจหน้าที่ ฝ่ายค้านตรวจสอบตามหน้าที่ มีข้อท้วงติง เสนอแนะรัฐบาลผ่านเวทีสภาฯได้ เมื่อจบคือจบ ไม่มีการตีรวน ไม่คอร์รัปชัน

นักการเมืองอย่าสร้างเงื่อนไขจนเกิดอุบัติเหตุการเมืองเหมือนที่ผ่านมา

บุคคลที่ขึ้นเป็นรัฐมนตรี ควรเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถและประสบการณ์ เพื่อเข้าไปตัดสินใจผลักดันนโยบาย มาตรการต่างๆในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ

หากผู้มีอำนาจตัดสินใจผิดย่อมมีผลกระทบต่อประเทศและประชาชน

เช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติเบร็กซิตในประเทศอังกฤษ ผู้บริหารประเทศตัดสินใจผิดพลาด ประเทศเจ๊ง

เฉกเช่นวิกฤติไวรัสโควิดคราวนี้หนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ทุกคนเดือนร้อนหมด ได้รับผลกระทบตั้งแต่รากหญ้าถึงธุรกิจทุกระดับ ยกเว้นธุรกิจบางประเภทไม่เสียหาย

รัฐบาลถึงได้ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ อาทิ มาตรการแก้ปัญหาสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ที่ไม่ปกติ ออกมาช่วยเฉพาะพวกมีอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิต เรตติ้ง แต่พวกไม่มีเครดิต เรตติ้งไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ข้อเท็จจริงพวกมีเครดิต เรตติ้งไม่มีหลักประกัน ส่วนพวกไม่มีเครดิต เรตติ้งมีหลักประกัน กำลังฟอร์มตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ ถ้ารัฐบาลปล่อยให้พวกนี้ตาย สุดท้ายกระทบพวกมีเครดิต เรตติ้งก็ตายไปด้วย กระทบต่อประชาชนที่ซื้อตราสารหนี้ มันจะกลายเป็นศูนย์เพราะไม่มีหลักประกัน

ฝาก “รัฐบาลลุงตู่” ช่วยแก้ไขปัญหาจุดนี้ด้วย

ควรช่วยทั้งพวกมีเครดิต เรตติ้งและไม่มีเครดิต เรตติ้ง

ขณะเดียวกันภาคอสังหาริมทรัพย์ในส่วนคอนโดมิเนียมค้างในตลาดกว่า 5 แสนยูนิต ยูนิตละ 5-6 ล้านบาท รัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือ โดยระบายคอนโดมิเนียมจำนวนดังกล่าวให้ได้ ไม่ใช่มีมาตรการช่วยเฉพาะคอนโดมิเนียมราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท

เช่น มาตรการลดหย่อนภาษีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2 เปอร์เซ็นต์เหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ ลดค่าภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3 เปอร์เซ็นต์เหลือ 0.11 เปอร์เซ็นต์ เพื่อช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ จูงใจให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเร่งการโอนให้เร็วขึ้น

พวกบริษัทพร็อพเพอร์ตี้ถึงอยู่ได้ ขายหมดก็เริ่มซื้ออิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก ลุยโครงการใหม่ต่อ เกิดการสร้างงานใหม่ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมหาศาล

แต่ตอนนี้บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ใหญ่ๆหยุดหมด กระทบห่วงโซ่ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง

หากในประเทศขาดกำลังซื้อควรออกมาตรการจูงใจให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้ ถึงอย่างไรราคาอสังหาริมทรัพย์ของไทยถูกกว่าต่างประเทศ วิกฤติโควิดสร้างโอกาสประเทศไทย ทำให้เฮลธ์แคร์ของไทยสุดยอดดีกว่าประเทศอื่น

เช่น ออกมาตรการให้ต่างชาติซื้อไม่กระจุกอยู่ที่ชาติใดชาติหนึ่ง สามารถพักอาศัย 15-20 ปี กรณีซื้อคอนโดมิเนียมราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปไม่ต้องขอวีซ่า

ส่วนมาตรการช่วยแรงงานที่ตกงาน เดิมประกันสังคมจ่ายอัตรา 62 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนไม่เกินเพดาน 15,000 บาท ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ควรเพิ่มอัตราจ่ายเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน พร้อมขยายเพดานเงินเดือนไม่เกิน 50,000 บาท

รวมถึงมีมาตรการนำค่าใช้จ่าย ทั้งค่าซ่อมบ้าน เดินทางท่องเที่ยว พักโรงแรม รับประทานอาหารนำมาหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อสร้างกำลังซื้อ มีเงินหมุนเข้าในระบบ สถานประกอบการเสียภาษีคืนรัฐ

มาตรการชิมช้อปใช้ยังทำได้ มาตรการนี้ย่อมทำได้

ขณะเดียวกันควรปรับสิทธิประโยชน์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้แข่งขันกับประเทศต่างๆได้

โดยเฉพาะจังหวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีน สร้างปัญหาให้จีนมาก บริษัทญี่ปุ่นหรือในยุโรปที่ลงทุนในจีนทั้งหมดกลัวมาก กำลังย้ายฐานการผลิตไปอยู่ประเทศไทยหรือเวียดนาม

แต่วันนี้สิทธิประโยชน์ในอีอีซีของไทยสู้เวียดนามไม่ได้

ทั้งสิทธิประโยชน์บีโอไอ ยกเว้นเงินได้นิติบุคคล 3-10 ปีขึ้นอยู่กับประเภทกิจการ และเพิ่มเติมได้มากสุด 3 ปี ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร ยกเว้นอากรนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตเพื่อส่งออก

สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอนุญาตให้ส่งออกซึ่งเงินตราต่างประเทศ อนุญาตให้นำช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการต่างชาติเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริม สิทธิถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน

สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีอีซี ทั้งสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ ยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มเติมที่ได้จากบีโอไอ อีก 2-3 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 13 ปีสำหรับประเภทกิจการที่อยู่ในหมวด 8 ของกลุ่มกิจการจากบีโอไอ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50 เปอร์เซ็นต์เพิ่มเติมอีก 5 ปีหลังจากที่หมดระยะเวลายกเว้นภาษี

เท่ากับยกเว้นภาษีสูงสุด 13 ปี บวกลดหย่อนภาษี 50 เปอร์เซ็นต์อีก 5 ปี

ลองเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ของเวียดนามที่ให้นักลงทุน ทั้งลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลืออัตรา 10 เปอร์เซ็นต์เป็นระยะเวลา 15 ปีนับจากปีที่เริ่มมีรายได้ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 4 ปี นับจากปีที่เริ่มมีรายได้ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 9 ปี

ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบซึ่งใช้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกวัตถุดิบ รวมถึงสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป การผลิตเพื่อการส่งออก ให้สิทธิในการส่งผลกำไรกลับประเทศได้อย่างเสรี โดยรัฐบาลเวียดนามได้

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลต่างชาติสำหรับธุรกิจทั่วไป เป็นอัตราเดียวกับชาวเวียดนามที่ 25 เปอร์เซ็นต์ สิทธิในการใช้ที่ดินในลักษณะสัญญาเช่าระยะยาว โดยเสียค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดินและได้รับสิทธิในการใช้ที่ดินสูงสุด 50 ปี หรือขยายถึง 70 ปีหากเป็นโครงการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ

เวียดนามยังมีการคุ้มครองการลงทุนอีก เช่น เมื่อเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ร่วมทุน หรือระหว่างบริษัทต่างชาติกับสถาบันใดๆของเวียดนาม และไม่สามารถตกลงกันได้ สามารถเสนอให้ศาลตุลาการหรือองค์กรอื่นตามที่ตกลงกันเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหรือประนีประนอมได้

รับประกันปกป้องสิทธิในทรัพย์สินอุตสาหกรรมและผลประโยชน์ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีในเวียดนาม

หากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุน นักลงทุนที่ลงทุนก่อนหน้าที่กฎหมายใหม่ประกาศใช้ มีสิทธิเลือกใช้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายเดิมได้สำหรับระยะเวลาที่เหลือของการใช้สิทธิประโยชน์ของโครงการ

ภาพรวมไทยสู้เวียดนามไม่ได้ ค่าจ้างขั้นต่ำของไทยก็แพงกว่าเท่าตัว

ถึงเวลาควรปรับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนใหม่

ก่อนนักลงทุนต่างชาติไปเวียดนามหมด

สิ่งเหล่านี้รัฐบาลควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แก้ปัญหาปากท้องและภาคธุรกิจเดินไปได้ เชื่อไม่มีม็อบออกมา.

ทีมการเมือง

Let's block ads! (Why?)


June 08, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/30h8sBF

ทั่วถึงอย่างเท่าเทียม : จับไต๋ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านแก้วิกฤติไวรัส - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2BaQsOR
Home To Blog

No comments:

Post a Comment